โรคไข้กาฬหลังแอ่นในเด็ก ภัยร้ายที่ควรรู้และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน
ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพเด็ก
บทความโดย : พญ. ธิดารัตน์ แก้วเงิน

โรคไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal disease) เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากเชื้อ Neisseria meningitidis ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลัง หรือการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย แต่พบบ่อยในเด็กเล็ก วัยรุ่น และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ด้วยความรุนแรงของโรคที่อาจนำไปสู่ความพิการถาวรหรือเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว แต่รู้ไหมว่าการป้องกันง่ายกว่าการรักษามากมายนัก? ด้วยความรู้ที่ถูกต้องและการป้องกันด้วยวัคซีนโรคไข้กาฬหลังแอ่นที่ทันท่วงที เราสามารถปกป้องคนที่เรารักจากภัยร้ายนี้ได้ มาร่วมทำความเข้าใจกับโรคไข้กาฬหลังแอ่นไปพร้อมกัน เพื่อให้คุณและครอบครัวใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยจากโรคร้าย
สารบัญ
โรคไข้กาฬหลังแอ่น ติดต่อได้อย่างไร
โรคไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal disease) เป็นโรคติดต่อที่มีอัตราตายสูงที่เกิดจากแบคทีเรีย Neisseria meningitidis ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงอย่างเฉียบพลัน ซึ่งสามารถทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรงจากไข้กาฬหลังแอ่น โรคนี้ติดต่อจากคนสู่คนโดยตรงผ่านทางละอองน้ำมูก น้ำลายจากการไอ จาม หรือการหายใจรดกันโดยตรง หรือการสัมผัสใกล้ชิดกับสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วยหรือพาหะ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางเยื่อเมือกของจมูกและคอ มักพบการระบาดในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันอย่างหนาแน่นและแออัด เช่น โรงเรียน หอพัก ค่ายทหาร หรือ บนเรือ
อาการโรคไข้กาฬหลังแอ่น
อาการของโรคไข้กาฬหลังแอ่นมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและรวดเร็ว หลังได้รับเชื้อประมาณ 2-10 วัน ได้แก่
- อาการเริ่มต้นคล้ายไข้หวัด คือ มีไข้สูง เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้อาเจียน
- อาการที่รุนแรงได้แก่
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาการไข้สูง คอแข็ง อาเจียน ปวดศีรษะรุนแรง ซึมลง หมดสติ
- ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด มีอาการไข้สูง ผื่นจ้ำเลือด มือเท้าเย็น อาจมีภาวะความดันโลหิตต่ำ สามารถนำไปสู่ภาวะช็อก และอวัยวะล้มเหลวได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตภายใน 24-48 ชั่วโมงได้
- ในเด็กเล็กจะมีอาการร้องไห้ผิดปกติ ซึมลง และไม่ยอมกินอาหาร

ภาวะแทรกซ้อนที่น่ากลัว
โรคไข้กาฬหลังแอ่นสามารถลุกลามได้ไว อาจเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเสียชีวิตที่ 10-15% โดย 1 ใน 5 ของผู้รอดชีวิตอาจเผชิญกับความพิการหรือผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว ได้แก่
- สูญเสียแขนหรือขา จากการติดเชื้อรุนแรง
- สูญเสียความสามารถในการเรียนรู้และจดจำ จากความเสียหายของสมอง
- สูญเสียการได้ยิน
- อาการอื่นๆ เช่น โรคลมชัก ปัญหาทางพฤติกรรม
การรักษาโรคไข้กาฬหลังแอ่น
แพทย์จะทำการสอบถามประวัติความเจ็บป่วย ตรวจร่างกายผู้ป่วย และทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการวินิจฉัยอาทิ การเพาะเชื้อในเลือด ในบางรายอาจตรวจน้ำไขสันหลัง และเมื่อพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่นจริง จะต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและเร่งด่วน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยการรักษานั้น แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำทันที ยาที่มักจะเลือกใช้ คือ ยา กลุ่ม penicillin, cephalosporins ร่วมกับการรักษาประคับประคอง เช่น ให้น้ำเกลือแก้ไขภาวะขาดน้ำเกลือแร่ กรดด่างไม่สมดุล ให้ยาลดไข้และเช็ดตัวเพื่อลดไข้สูง ให้ยาป้องกันหรือรักษาอาการชักหากเกิดขึ้น เป็นต้น
โรคไข้กาฬหลังแอ่น อันตรายแต่ป้องกันได้
วิธีการป้องกัน และ ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ สามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย และลดการอยู่ในสถานที่แออัด และ การฉีดวัคซีนโรคไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal vaccine) โดยสามารถฉีดได้ในเด็กตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป (โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ) เป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ใครบ้างเสี่ยงและควรรับวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น
- เด็กตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่สมบูรณ์
- วัยรุ่น ใช้ชีวิตในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น หอพัก หรือ กรณีจะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศที่มีการระบาดของโรคไข้กาฬหลังแอ่น
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ที่ไม่มีม้ามหรือการทำงานของม้ามบกพร่อง ผู้ป่วย HIV
วัคซีนโรคไข้กาฬหลังแอ่น มี 2 ชนิด
ชนิดที่ 1 วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่นสายพันธุ์ B (MenB) ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่พบบ่อยในประเทศไทย
- ฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป
- วัยรุ่นและนักศึกษา แนะนำฉีดวัคซีนก่อนเดินทางไปต่างประเทศที่เป็นพื้นที่เสี่ยง
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้ที่เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนที่เหมาะสม
ชนิดที่ 2 วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่นสายพันธุ์ A,C,W,Y
- ฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 12 เดือนขึ้นไป
หากมีอาการที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะการวินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการช่วยชีวิตและป้องกันภาวะแทรกซ้อน รวมทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันไข้กาฬหลังแอ่นเพื่อป้องกันตนเองและคนรอบข้างจากโรคร้ายที่อาจสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิต โดยโรงพยาบาลนครธน มีบริการ วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่นสายพันธุ์ B โดยแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งหากไม่แน่ใจว่าควรฉีดวัคซีนหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับปัจจัยเสี่ยงและสภาพสุขภาพของแต่ละบุคคล สามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลจากแพทย์ออนไลน์ได้เลย
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์สุขภาพเด็ก